GenDHL
16
0
ข้อมูลจากกรมสุขภาพจิตพบว่า วัยรุ่นมีปัญหาโรคซึมเศร้า และในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งมีเด็กคิดฆ่าตัวตาย 6% ซึ่งการทำร้ายตัวเองอาจนำไปสู่การฆ่าตัวตาย และมีงานวิจัยที่พบว่าวัยรุ่น LGBTQ หรือวัยรุ่นที่มีความหลากหลายทางเพศ มีอัตราเสี่ยงต่อการทำร้ายตัวเอง
ข้อมูลจากกรมสุขภาพจิตพบว่า วัยรุ่นมีปัญหาโรคซึมเศร้า และในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งมีเด็กคิดฆ่าตัวตาย 6% ซึ่งการทำร้ายตัวเองอาจนำไปสู่การฆ่าตัวตาย และมีงานวิจัยที่พบว่าวัยรุ่น LGBTQ หรือวัยรุ่นที่มีความหลากหลายทางเพศ มีอัตราเสี่ยงต่อการทำร้ายตัวเอง
งานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสารวิชาการ JAMA Pediatrics ให้ข้อมูลว่า มีจำนวนที่น่าตกใจของวัยรุ่นที่ทำร้ายตัวเอง แต่วัยรุ่นที่เป็นไบเซ็กชวล อาจมีแนวโน้มว่าจะทำร้ายตัวเองมากกว่าถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับกลุ่มสเตรท (straight) หรือวัยรุ่นที่รักเพศตรงข้าม โดยงานวิจัยให้ข้อมูลว่า วัยรุ่นกลุ่มเฮเตอโรเซ็กชวล หรือกลุ่มที่รักเพศตรงข้ามระหว่าง 10%-20% มีพฤติกรรมที่เป็นอันตราย แต่วัยรุ่นกลุ่ม LGBTQ หรือกลุ่มที่รักเพศเดียวกัน 38%-53% มีพฤติกรรมทำร้ายตัวเอง
ผู้วิจัยกล่าวว่า อัตราการบาดเจ็บจากการพยายามฆ่าตัวตาย เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหมู่วัยรุ่น LGBTQ และในขณะที่อัตราการทำร้ายตัวเองลดลง ในวัยรุ่นกลุ่มเฮเตอโรเซ็กชวล ในช่วงปี 2005-2007 แต่อัตราการทำร้ายตัวเองของกลุ่มวัยรุ่น LGBTQ ไม่ได้ลดลงในช่วงเวลาดังกล่าว ตัวอย่างการทำร้ายตัวเองที่พบบ่อย ได้แก่ การกินยาเกินขนาด การต่อยตีหรือตบตีตัวเอง การกรีดแขน การดึงผมตัวเอง หรือหยิกตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นวิธีใด หากสังเกตเห็นการทำร้ายตัวเอง ควรพาบุคคลนั้นไปพบคุณหมอทันที เพราะจากสถิติพบว่าการฆ่าตัวตาย เป็นหนึ่งในสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของวัยรุ่น และการพยายามทำร้ายตัวเองเพื่อฆ่าตัวตาย เกิดขึ้นในกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 13%-45% โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่เป็น LGBTQ ดังนั้นจึงควรใส่ใจคนรอบข้าง ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป นอกจากนี้คุณอาจปฏิบัติตามวิธีเหล่านี้
วัยรุ่น ทำร้ายตัวเอง ป้องกันได้อย่างไร
https://empowerliving.doctor.or.th/case/1052
คุยกับ Gen AI